JKN HI SHOPPING คาดการณ์ผลการดำเนินงาน 2 ไตรมาสสุดท้าย หวังโต 25%

JKN HI SHOPPING
คาดการณ์ผลการดำเนินงาน 2 ไตรมาสสุดท้าย หวังโต 25%

นายลิม ซ็อก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น ไฮ ช็อปปิ้ง จำกัด หรือ JKN HI SHOPPING เปิดเผยว่า สถานการณ์ช่วงครึ่งปีแรกนี้ (มกราคม – มิถุนายน) บริษัทฯ อยู่ในช่วงการขยายธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงพัฒนาการขายสินค้าออนไลน์เพื่อก้าวสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ผนวกกับสภาวะอันเนื่องมาจากจำนวนคนรับชมทีวีลดลง และสภาพทางเศรษฐกิจซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคจึงส่งผลให้ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยมีรายได้รวมลดลง 18% ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เตรียมการปรับกลยุทธ์ในช่วงครึ่งปีหลังและตั้งเป้าหมายเพิ่มยอดขายในไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยจะทยอยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในปีหน้า

ทั้งนี้กลยุทธ์ในการปรับแผนธุรกิจเพื่อฟื้นตัวผลประกอบการของบริษัทให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้นั้น บริษัทมุ่งเน้นการคัดสรรสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าหลักโดยเฉพาะในกลุ่มของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพที่สามารถทำรายได้ใกล้เคียงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเครื่องประดับมงคลซึ่งเติบโตถึง 516% โดยสินค้าดังกล่าวได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ พร้อมการเสริมทัพสินค้าจากนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคจาก JKN Best Life ที่ตอบโจทย์ความต้องการสอดรับเทรนด์รักสุขภาพของผู้บริโภค รวมถึงการขยายช่องทางโปรโมตสินค้าผ่านทีวีดิจิทัล JKN18

อีกหนึ่งกลยุทธ์การฟื้นตัวคือ การเร่งผลักดันผลประกอบการที่มาจากการปรับแผนธุรกิจในกลุ่มอีคอมเมิร์ซ เพื่อสร้างฐานลูกค้าในกลุ่มนี้ โดยไฮไลท์ในไตรมาส 4 ของปีนี้คือการเปิดให้บริการสั่งซื้อสินค้าจากประเทศเกาหลีแบบ Online Exclusive ที่ให้บริการสั่งซื้อสินค้าแบบ Pre-order จาก Hmall จากกลุ่มฮุนไดฯ ประเทศเกาหลี พร้อมแผนเปิดตัวร้านค้าน้องใหม่ในแพลตฟอร์มไลน์ ช้อปปิ้ง ในนามร้าน “Little Hi” เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคผู้หญิงกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน ที่มีอายุระหว่าง 20-35 ปี โดยเน้นสินค้าที่เกี่ยวกับแฟชั่น เครื่องสำอาง และสินค้านำเข้าจากต่างประเทศซึ่งเป็นทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยม

การปรับแผนและกลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยผลักดันผลการดำเนินการของเจเคเอ็น ไฮ ช็อปปิ้งใน 2 ไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 ให้เติบโตขึ้นได้ 25% เพื่อสร้างรากฐานการดำเนินธุรกิจแบบ Content Commerce Company และสะท้อนศักยภาพการดำเนินธุรกิจโฮมช้อปปิ้งที่แข็งแกร่งได้เป็นอย่างดี